แผนออมเงิน สำหรับคุณพ่อ ที่อยากวางแผนครอบครัวให้มั่นคง

ออมเงินระยะยาว เพื่อเกษียณ มรดก และความมั่นคงในครอบครัว

เมื่อชีวิตไม่ได้มีแค่ตัวเราอีกต่อไป “แผนการเงิน” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข — แต่คือการส่งต่อความมั่นคง ความรัก และโอกาสที่ดีที่สุดให้กับคนที่เราห่วงใย

แผนออมเงิน สำหรับคุณพ่อ ผู้ชายอายุ 40  ที่อยากวางแผนครอบครัวให้มั่นคง

เป้าหมายทางการเงินของคุณพ่อวัย 40 ที่ควรเริ่มคิดวันนี้

  1. เติมเต็มอนาคตหลังเกษียณ
  2. มีทุนชีวิตให้ลูก หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
  3. ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีระหว่างทาง
  4. ส่งต่อเป็นมรดกได้ หากไม่ได้ใช้เอง

ทำไมผู้ชายวัย 40 ต้องเริ่มมี แผนออมเงิน ตั้งแต่วันนี้?

ในช่วงวัยที่คุณกำลังมั่นคงทั้งในหน้าที่การงานและบทบาทของหัวหน้าครอบครัว หนึ่งในความท้าทายคือการวางแผน “อนาคต” ที่ไม่ใช่แค่ของตัวเอง แต่รวมถึงภรรยาและลูกที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิต

หลายคนอาจมีการลงทุนในกองทุนรวม หุ้น หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่แล้ว แต่คำถามคือ…

แค่นั้นเพียงพอไหม? ถ้าคุณต้องหยุดทำงานก่อนเวลา หรือจากไปก่อนลูกโตเต็มที่… จะมีเงินพอหรือเปล่า? โดยเฉพาะในแง่ของการรักษาคุณภาพชีวิตของคนข้างหลัง — ให้เขายังมีโอกาสใช้ชีวิตต่อได้อย่างไม่สะดุด


Insight พฤติกรรมการเงินของผู้ชายวัย 40 ที่มีครอบครัว

ผู้ชายวัย 40 คือกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ทั้งเรื่องหน้าที่การงานที่กำลังเติบโตสูงสุด และภาระความรับผิดชอบในครอบครัวที่มากขึ้นเรื่อย ๆ

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติและรายงานวิจัยของธนาคารหลายแห่ง พบว่า:

  • ผู้ชายวัย 35–44 ปี เป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุตรหลานและผู้สูงอายุในบ้านสูงที่สุด
  • มากกว่า 60% ของผู้ชายวัยนี้ มีภาระหนี้สิน เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือค่าเล่าเรียนของลูก
  • มีความตั้งใจออมสูง แต่จำนวนเงินที่ออมจริง มักไม่สม่ำเสมอ เพราะรายจ่ายแทรกเข้ามาตลอด
  • หลายคนเริ่มลงทุน เช่น กองทุน หุ้น หรือคริปโต แต่เผชิญกับความไม่แน่นอนจนเริ่มมองหาเครื่องมือที่มั่นคงกว่า

สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้คนกลุ่มนี้จะรู้ว่า “ต้องวางแผนอนาคต” แต่ยังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่มีการวางแผนที่ชัดเจนในเรื่อง:

  • การออมเงินเกษียณแบบมีเป้าหมาย
  • การวางแผนมรดกให้ลูกอย่างเป็นระบบ
  • การลดหย่อนภาษีแบบยั่งยืน ไม่ต้องลุ้นทุกปลายปี

และที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขามักไม่มีเวลาในการจัดการทุกอย่างให้ครบ จึงต้องการแผนการเงินที่ง่าย ใช้งานได้หลายฟังก์ชันในก้อนเดียว — ซึ่ง My Double Plus 25/20 ตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างดี


มายดับเบิ้ลพลัส 25/20 ช่วยวางแผนนี้ได้อย่างไร?

แผนประกันสะสมทรัพย์ มายดับเบิ้ลพลัส 25/20 (My Double Plus 25/20) คือเครื่องมือการออมเงินระยะยาวที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์หลายเป้าหมายในเวลาเดียวกัน

  • ออม 20 ปี รับเงินคืนปีที่ 25 สูงถึง 140% ของทุน (เป็นขั้นต่ำ)
  • คุ้มครองชีวิต 115% ตลอด 25 ปี
  • โอกาสรับปันผลระหว่างทาง
  • ใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท/ปี
  • เป็นเงินก้อนที่ส่งต่อให้ลูกได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก่อนถึงเป้าหมาย

ผลตอบแทนเมื่อครบสัญญา (ทุน 1 ล้านบาท)

  • ปันผลเฉลี่ย 3%: ได้เงินรวม 1,577,900 บาท
  • ปันผลเฉลี่ย 4%: ได้เงินรวม 1,825,700 บาท
  • ปันผลเฉลี่ย 5.5%: ได้เงินรวม 2,227,300 บาท

โดยปี 2568 Allianz Ayudhya ประกาศปันผลแล้วที่ 4% และช่วงโควิดที่ผ่านมาเคยอยู่ที่ 3.5% — ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในภาวะวิกฤต ธุรกิจจำนวนมากหยุดชะงัก ตลาดทุนผันผวนหนัก และผลตอบแทนของการลงทุนหลายประเภทติดลบอย่างต่อเนื่อง แต่แผนประกันยังสามารถรักษาระดับปันผลไว้ได้อย่างมั่นคง

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า “แผนระยะยาว” มีความได้เปรียบในด้านความมั่นคง โดยเฉพาะเมื่อมองจากทิศทางเศรษฐกิจในช่วงหลัง ๆ ที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ — ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนของการลงทุนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อปันผลของประกันชีวิตหลายประเภทด้วย

แต่อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเลือกแผนออมระยะยาวอย่าง My Double Plus 25/20 เหมาะสมกว่าการออมระยะสั้น คือเรื่องของสุขภาพและการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในระยะยาว

สมมติคุณเลือกแผนระยะสั้น เช่น ออม 10 ปี แผนอาจครบตอนอายุ 50 — ซึ่งเป็นช่วงที่คุณยังทำงานอยู่ และยังมีรายได้ที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ต่อไปอีกหลายปี

แต่หากครบแผนแล้ว คุณอยากทำประกันใหม่เพื่อลดหย่อนต่อ และเกิดพบว่ามีโรคประจำตัว หรือเงื่อนไขสุขภาพบางอย่าง คุณอาจไม่สามารถทำแผนใหม่ได้อีก หรือทำได้แต่เบี้ยสูงขึ้นมาก

แผนระยะยาวจึงช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลว่า จะต้องมาหาแผนใหม่ในช่วงที่สุขภาพอาจไม่เอื้ออำนวยอีกต่อไป

แผนเดียวที่คิดเผื่ออนาคตในหลายด้าน

My Double Plus 25/20 ไม่ใช่แค่แผนออมเงินธรรมดา แต่ถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมหลายมิติของชีวิตการเงิน โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีครอบครัว และต้องวางแผนให้ทั้งตัวเองในอนาคต และคนข้างหลังที่อยากดูแล

  • ครอบคลุมถึงวัยเกษียณ ช่วยให้คุณไม่ต้องห่วงว่าเงินจะหมดก่อนเวลา
  • ใช้ลดหย่อนภาษีได้ยาวนาน ตามช่วงอายุการทำงานจริง โดยไม่ต้องกังวลว่าแผนจะหมดอายุก่อนที่คุณจะหยุดทำงาน
  • มีความยืดหยุ่นในการใช้เงินเมื่อครบสัญญา จะเก็บไว้ใช้เองหรือส่งต่อให้ลูกก็ได้

ที่สำคัญ แม้แผนนี้จะไม่ได้มีทุนชีวิตสูงเท่าประกันชีวิตคุ้มครองระยะยาวทั่วไป แต่สิ่งที่โดดเด่นคือความสามารถในการทำงานได้หลากหลายหน้าที่ในแผนเดียว — สำหรับคนที่ไม่ได้แบ่งเงินเป็นหลายก้อน แผนนี้คือคำตอบ เพราะเงินก้อนเดียวนี้สามารถทำหน้าที่ได้ครบ: ออมเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี คุ้มครองชีวิต และส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกได้ในคราวเดียว ที่มั่นคงระยะยาว จัดการต่อเนื่องได้ตลอดช่วงทำงาน และเมื่อครบสัญญา คุณยังสามารถเลือกใช้เงินก้อนนั้นได้อย่างยืดหยุ่น จะใช้ทันทีหรือเก็บต่อก็ได้ตามเป้าหมายที่เปลี่ยนไปในอนาคต

เปรียบเทียบกับการออมแบบอื่น: ทำไมต้องเลือกประกัน?

หลายคนอาจตั้งคำถามว่า… ถ้าเป้าหมายคือการออมเพื่ออนาคต ทำไมไม่ลงทุนในกองทุนรวม หุ้น หรือ RMF ซึ่งดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า?

คำตอบคือ — เพราะการออมในประกันไม่ใช่แค่เรื่อง “ผลตอบแทน” แต่เป็นเรื่องของ “ความมั่นคง ความต่อเนื่อง และความครอบคลุม”

ลองเปรียบเทียบแบบตรงไปตรงมาดังนี้:

รายการประกันสะสมทรัพย์ (My Double Plus 25/20)RMF/กองทุนรวมหุ้น
ความเสี่ยงต่ำ มีการันตีเงินคืนขั้นต่ำกลางถึงสูงสูงมาก
ผลตอบแทนการันตีขั้นต่ำ + ปันผลตามประมาณการไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับตลาดไม่แน่นอน ผันผวนสูง
คุ้มครองชีวิต✅ มีในตัวทันที❌ ไม่มี❌ ไม่มี
ลดหย่อนภาษี✅ ได้สูงสุด 100,000 บ./ปี✅ ได้ (RMF/SSF เท่านั้น)❌ ไม่ได้
ความแน่นอน✅ สูง วางแผนได้ล่วงหน้า❌ ไม่แน่นอน❌ ไม่แน่นอน
ส่งต่อเป็นมรดก✅ ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านศาล✅/❌ ขึ้นกับการจัดการ✅/❌ ขึ้นกับพินัยกรรม
ภาษีจากผลตอบแทน❌ ไม่เสียภาษี✅ มีภาษีกองทุนบางประเภท✅ มีภาษีจากปันผล/กำไรจากการขาย

การออมในประกันสะสมทรัพย์อาจไม่หวือหวา แต่ให้ภาพรวมที่มั่นคง และง่ายต่อการวางแผนทั้งครอบครัว

หากคุณมีพอร์ตลงทุนอยู่แล้ว การเพิ่มประกันเข้ามา คือการ “เสริมความมั่นคงให้พอร์ตโดยรวม” และทำให้คุณไม่ต้องกังวลหากการลงทุนหลักเกิดผันผวน

ตัวอย่างการวางแผนจริงด้วยแผนประกันออมเงิน มายดับเบิ้ลพลัส 25/20 (My Double Plus 25/20)

นาย A อายุ 40 ปี มีลูกวัยกำลังน่ารัก ต้องการวางแผนชีวิตอีก 20 ปี ก่อนเกษียณ อายุ 60

เขาเลือกทำ “มายดับเบิ้ลพลัส 25/20” ทุนประกัน 1 ล้านบาท

  • จ่ายเบี้ยเพียง ประมาณ 68,000 บาท/ปี รวม 20 ปี
  • ได้ความคุ้มครองชีวิต 1.15 ล้านบาท ตลอดสัญญา (หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เงินก้อนนี้จะส่งต่อให้ภรรยาและลูกทันที)
  • ปีที่ 25 (อายุ 65 ปี) รับเงินคืน ขั้นต่ำ 1.4 ล้านบาท และหากปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 5.5% จะได้รับเงินรวมสูงถึง 2.2 ล้านบาท เลยทีเดียว (ตามประมาณการจากแบบประกัน)

ซึ่งในตอนนั้น ลูกของเขาก็จะอายุประมาณ 26 ปี — ช่วงเวลาที่กำลังก้าวสู่ชีวิตการทำงานอย่างเต็มตัว

เงินก้อนนี้จึงสามารถเป็น “ของขวัญจากพ่อ” เพื่อส่งต่อในวันที่ลูกเริ่มต้นชีวิตจริงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะใช้เป็นทุนการศึกษาต่อ ทุนเริ่มต้นธุรกิจ หรือเงินก้อนเก็บไว้ในชื่อของลูก หรือแม้แต่เก็บไว้ใช้เป็นเงินหลังเกษียณของเขาเองในกรณีที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ทันที หรือหากคุณยังต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในช่วงปลายอายุงาน ก็สามารถใช้ประกันนี้เพื่อลดหย่อนต่อได้เช่นกัน — ล้วนแล้วแต่เป็นการเตรียมพร้อมด้วยความตั้งใจ

🧓 เงินก้อนหลังเกษียณ = Peace of Mind ที่แท้จริง

แม้ตอนอายุ 60 เราอาจได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5-10 ปี เงินก้อนนั้นอาจเริ่มร่อยหรอ เพราะไม่มีรายได้ใหม่เข้ามาแล้ว

การมีเงินก้อนจาก My Double Plus 25/20 เพิ่มเข้ามาตอนอายุ 65 ปี คือการเสริม “ความสบายใจ” ในช่วงชีวิตที่รายได้หยุด แต่รายจ่ายยังคงมีอยู่

👶 ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน ลูกจะไม่ถูกทิ้งไว้ลำพัง

ไม่มีใครอยากคิดถึงวันที่เราอาจไม่ได้อยู่กับลูกจนเขาเติบโตเต็มที่ แต่ในฐานะพ่อ การวางแผนเผื่อไว้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในช่วงเวลาที่คุณยังจ่ายเบี้ยไม่ครบ ลูกจะได้รับ “ทุนชีวิต” ทันที 1.15 ล้านบาท จากแผน My Double Plus 25/20 โดยไม่ต้องรอให้แผนครบสัญญา และไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากทางกฎหมายหรือศาล

เงินก้อนนี้จะช่วยเป็นหลักประกันชีวิตให้ลูกในวันที่ไม่มีคุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน ค่าดูแล หรือแม้แต่เงินตั้งต้นชีวิตในอนาคต เป็นการทิ้งมรดกที่แท้จริงไว้อย่างมีระบบและมั่นคง

คุณอาจไม่สามารถอยู่ดูเขาเติบโตได้ด้วยตัวเอง… แต่คุณสามารถส่งต่อความรักและความมั่นคงให้เขาผ่านแผนนี้ได้เสมอ

🏡 ถ้าไม่ได้ใช้ ก็เก็บไว้เป็นมรดกในวันที่คุณพร้อมส่งต่อ

หลายคนอาจมองว่า แผนประกันชีวิตแบบนี้มีไว้ใช้เฉพาะกรณีไม่คาดฝันเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว หากคุณใช้ชีวิตอย่างมั่นคง และอยู่ครบตามสัญญา เงินก้อนที่ได้คืนในปีที่ 25 ก็ยังสามารถเก็บไว้เป็นทรัพย์สะสมที่ส่งต่อให้ลูกในอนาคตได้อีกด้วย

มันคือการวางแผนที่ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุร้ายก่อนถึงจะมีประโยชน์ — แต่เป็นการเตรียมไว้ล่วงหน้า ด้วยความตั้งใจที่จะดูแลคนข้างหลังอย่างดีที่สุด

แผนเดียวนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของความเสี่ยง แต่คือ “ความรับผิดชอบและความรัก” ที่ส่งต่อได้จริง

🧾 ลดหย่อนภาษีปีละแสน คืนกลับหลักหมื่น

เบี้ยประกันที่จ่ายสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ปีละสูงสุด 100,000 บาท ซึ่งถ้าคุณอยู่ในฐานภาษี 20% จะช่วยให้ประหยัดภาษีได้สูงถึง 20,000 บาทต่อปี รวม 20 ปี ประหยัดได้ถึง 400,000 บาทเลยทีเดียว

เพราะแผนนี้… ไม่ใช่แค่การออมเงิน แต่คือการ “วางแผนชีวิตให้ทั้งครอบครัว”

แผนเดียว จัดการทุกเป้าหมายทางการเงิน

ถ้าคุณกำลังมองหาแผนการเงินที่มั่นคง ใช้ได้ยาว และไม่ต้องแยกกองวางแผนให้ยุ่งยาก — My Double Plus 25/20 คือแผนที่ตอบโจทย์ทุกด้านในชีวิต

แม้แผนนี้จะไม่ได้มีทุนชีวิตสูงเท่าประกันคุ้มครองชีวิตโดยเฉพาะ แต่ในอีกมุมหนึ่ง นี่คือรูปแบบของการออมที่มั่นคง มีระบบ และคาดการณ์ผลตอบแทนได้ สิ่งที่โดดเด่นคือความ “ยืดหยุ่นในการใช้งาน” — เพราะเงินก้อนเดียวนี้สามารถทำหน้าที่ได้หลากหลาย:

  • เป็นเงินออมเพื่อเกษียณ
  • เป็นมรดกให้ลูก
  • เป็นเครื่องมือลดหย่อนภาษี
  • และเป็นทุนชีวิตเผื่อเหตุไม่คาดฝัน

หากคุณไม่สามารถแบ่งเงินออกเป็นหลายกอง แผนนี้คือการรวมฟังก์ชันทางการเงินไว้ในก้อนเดียว ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตครอบครัว

ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายเพื่อดูแลตัวเองในวัยเกษียณ เพื่อส่งต่อความมั่นคงให้ลูก หรือเพื่อวางแผนภาษีในระยะยาว — แผนนี้สามารถช่วยให้คุณจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระบบและมั่นคง

เริ่มต้นวางแผนวันนี้ เพื่อให้ 20 ปีข้างหน้าคุณมั่นใจว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว

📩 ทักมาคุยกันได้เลย ถ้าอยากรู้ว่าแผนเงินออมนี้จะเหมาะกับคุณแค่ไหน

🔎 อ้างอิงข้อมูล (References)

  1. สำนักงานสถิติแห่งชาติ – รายงานภาวะสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2566
  2. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) – ข้อมูลดอกเบี้ยนโยบายย้อนหลัง
  3. Krungsri Research – พฤติกรรมการเงินของคนวัยทำงาน
  4. กรมสรรพากร – สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิต
  5. Allianz Ayudhya – รายงานผลปันผลแผนประกันชีวิตย้อนหลัง

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top