เพราะชีวิตไม่เคยชิลจริง และอนาคตก็ไม่เคยแน่นอน
เคยคิดไหม ว่าเราจะมีเงินใช้หลังอายุ 60 จริงหรือเปล่า?
ลองจินตนาการดูนะ…
ถ้าเราอายุ 35 ปี วันนี้ เราเหลือเวลาอีกประมาณ 25 ปี ก่อนจะถึงวัยเกษียณ
ในช่วงเวลานั้น เราอาจต้องเจอกับ
- ลูกเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
- พ่อแม่เริ่มมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ
- งานที่ไม่แน่นอนเหมือนเดิมอีกต่อไป
แล้วเราจะมีเงินพอสำหรับใช้ในวัยเกษียณจริงหรือ?
สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ การวางแผนการเงินต้องเริ่มตั้งแต่ตอนที่เรายังมีแรง ยังมีรายได้ประจำอยู่
และหนึ่งในแผนที่เราอยากชวนมาคิดกันวันนี้คือ “มายดับเบิ้ลพลัส 25/20” แผนประกันสะสมทรัพย์ที่ให้คุณออมต่อเนื่อง 20 ปี และรับเงินคืนก้อนใหญ่ในปีที่ 25
1. วางเป้าเกษียณให้แม่น แล้วลุยสะสมให้ถึงด้วย My Double Plus 25/20
รู้ไหมว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดเรื่องเกษียณ?
มีผลสำรวจจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2566 บอกว่า คนไทยส่วนใหญ่เกษียณตอนอายุ 60 ปี แต่มีถึง 37.5% ของผู้สูงอายุยังต้องทำงานต่อไป เพราะไม่มีเงินพอใช้หลังเกษียณ
คิดดูดี ๆ นะ ถ้าเรายังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไม่ได้เริ่มออมสักที อีก 25 ปีข้างหน้า เราอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้
การออมแบบยาว 20 ปี จะช่วยให้เราฝึกวินัยการเงิน และได้ผลลัพธ์ตามเป้าจริง ๆ ไม่ใช่แค่หวังพึ่งดอกเบี้ยจากการฝากเงิน หรือการลงทุนที่ผันผวน และที่สำคัญ ถ้าเราเลือกออมสั้น พอได้เงินออกมาเร็ว เราก็มีโอกาสสูงมากที่จะเอาไปใช้อย่างอื่นแบบไม่ได้วางแผน เช่น เปลี่ยนมือถือใหม่ เที่ยวยาว ซื้อของเข้าบ้าน ฯลฯ
สุดท้ายก็อาจไม่มีเงินเหลือไว้สำหรับเป้าหมายจริง ๆ ที่วางไว้ตั้งแต่แรก แต่ออมยาว 20 ปี คือการล็อกอนาคตเราไว้ ว่าอีก 25 ปีจะต้องมีเงินก้อนแน่นอน ซึ่งแผนประกันออมอย่าง My Double Plus 25/20 คือตัวช่วยที่จะทำให้คุณไปถึงเป้า ซึ่งเป้าหมายนั้น อาจไม่ใช่แค่เรื่องเกษียณอย่างเดียว แต่อาจเป็นการเก็บเงินให้ลูกไว้เรียนต่อ หรือเป็นเงินทุนสำหรับทำธุรกิจของตัวเองก็ได้
2. เพราะผลตอบแทนในอนาคต… ไม่แน่นอนเท่าคำว่า “การันตี”
ยุคนี้ใครที่เคยลงทุนมาบ้าง จะรู้เลยว่า “ความแน่นอน” กลายเป็นของหายากมาก
- ตลาดหุ้นผันผวนจากข่าวสารทั่วโลก
- กองทุนรวมขึ้น ๆ ลง ๆ ตามดอกเบี้ยนโยบายและเศรษฐกิจ
- ดอกเบี้ยเงินฝากยังคงต่ำ แม้จะมีช่วงที่ขยับขึ้นแต่ก็ไม่คงที่
แม้บางปีตลาดจะให้ผลตอบแทนดี แต่ก็มีหลายคนที่ “ซื้อผิดจังหวะ” หรือ “ขายก่อนเวลา” ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่คาดไว้ และนั่นแหละคือจุดที่ทำให้หลายคนเริ่มมองหาเครื่องมือที่ให้ผลตอบแทนแบบรู้ล่วงหน้าได้เลย
แผนประกันสะสมทรัพย์อย่าง มายดับเบิ้ลพลัส 25/20 (My Double Plus 25/20) เป็นหนึ่งในทางเลือกนั้น เพราะให้คุณออมทุกปี ด้วยเบี้ยที่คงที่ และได้ผลตอบแทนที่การันตีชัดเจนตั้งแต่วันแรก
ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกทุนประกันที่ 1 ล้านบาท
- ครบปีที่ 25 รับคืน 140% ของทุน = 1.4 ล้านบาท
- ระหว่างทาง ยังมีโอกาสรับเงินปันผลรายปี (ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัทประกัน)
- ได้ความคุ้มครองชีวิต 115% ตลอดสัญญา
ข้อดีของการการันตีผลตอบแทนคือ “คุณวางแผนล่วงหน้าได้” เช่น อยากใช้เงินก้อนนี้ให้ลูกเรียนต่อ หรือเป็นเงินใช้ตอนเกษียณ คุณสามารถรู้ล่วงหน้าเลยว่าอีก 25 ปี จะได้เงินเท่าไหร่ โดยไม่ต้องลุ้นว่าตลาดจะดีไหม เงินจะหายไหม หรือดอกเบี้ยจะลดลงอีกหรือเปล่า
แผนนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของผลตอบแทน แต่เป็นเรื่องของ “ความสบายใจ” ที่คุณจะมีตลอด 20 ปีที่กำลังออมอยู่ ไม่มีเรื่องตลาดลบมาทำให้หัวใจวูบ
3. My Double Plus ได้ทั้งออม ได้ทั้งลดหย่อนภาษี และได้ “ทุนชีวิต” ติดมือ
ใครที่มีรายได้ประจำ เข้าใจดีว่า “ภาษี” คือเรื่องที่หนีไม่พ้น และในทุกปี เรามักต้องมานั่งหาวิธีลดหย่อนกันวุ่นวายช่วงปลายปี
แต่รู้ไหมว่า แผนประกันชีวิตที่มีอายุสัญญาเกิน 10 ปี และจ่ายเบี้ยต่อเนื่องเกิน 10 ปีขึ้นไป สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท/ปี ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ “คุ้มสองต่อ” คือได้ทั้งออมเงินและลดหย่อนภาษีไปพร้อมกัน
หากคุณออมกับมายดับเบิ้ลพลัส 25/20 อย่างสม่ำเสมอทุกปี เท่ากับว่าคุณจะ
- มีเงินออมสะสมก้อนใหญ่ไว้ใช้ในอนาคต
- ลดภาระภาษีลงได้อย่างต่อเนื่อง
- และมีวินัยทางการเงินที่ชัดเจนแบบไม่ต้องคิดซับซ้อน
ลองคิดง่าย ๆ ถ้าคุณอยู่ในฐานภาษี 20% การใช้สิทธิ์ลดหย่อนเต็มจำนวนทุกปี จะช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้ถึง 20,000 บาทต่อปี รวม 20 ปีก็เท่ากับเงินออมเพิ่มอีกราว 400,000 บาทโดยไม่รู้ตัว
ที่สำคัญกว่านั้น… คุณยังได้ “ทุนชีวิต” ติดมือด้วย
ทุนชีวิต คือความคุ้มครองที่ติดมากับแผนประกัน ซึ่งอาจดูเหมือนไม่ได้ใช้ แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วยรุนแรง หรือการจากไปก่อนวัยอันควร ทุนนี้คือเงินที่ช่วยดูแลครอบครัว ดูแลลูก ดูแลพ่อแม่ของคุณในวันที่คุณไม่อยู่
ดังนั้น ถ้ามองให้ครบทั้งภาพ การออมผ่านแผนนี้ไม่ใช่แค่การวางแผนเกษียณ แต่คือการวางแผนชีวิตทั้งระบบ ทั้งด้านรายได้ ภาษี และการปกป้องสิ่งที่คุณรักไว้พร้อมกันในที่เดียว
แล้วจะออมอย่างไรให้ไม่เหนื่อย?
สิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่า “ออมยาว ๆ มันยาก” ก็คือการเริ่มต้นแบบไม่มีแผน
เราขอแนะนำให้คุณลองดู 3 ขั้นตอนนี้:
1. ตั้งเป้าหมายให้ชัด
เช่น อยากมีเงินก้อน 1 ล้านบาทตอนอายุ 60
2. วางแผนเงินออมรายปี
เลือกเบี้ยประกันที่คุณจ่ายไหว ไม่เกิน 10% ของรายได้ต่อปี จะช่วยให้ไม่รู้สึกหนักเกินไป
3. ติดตามผล และให้รางวัลตัวเอง
ทุก ๆ 5 ปี ลองเช็กว่าออมได้ตามเป้าหมายไหม และให้รางวัลตัวเองเล็ก ๆ จะได้ไม่รู้สึกว่าออม = ทรมาน
สรุป: ถ้าเริ่มวันนี้… อีก 25 ปี คุณจะขอบคุณตัวเอง
มายดับเบิ้ลพลัส 25/20 คือแผนการออมที่เรียบง่าย แต่ได้ผลจริง
- ออม 20 ปี รับเงินคืนปีที่ 25
- มีเงินปันผลระหว่างทาง
- ลดหย่อนภาษีได้
- คุ้มครองชีวิตสูงถึง 115%
- ได้ฝึกวินัยทางการเงิน
- ป้องกันไม่ให้ถอนมาใช้ง่าย ๆ ก่อนถึงเป้าหมาย
- รองรับหลายเป้าหมาย ทั้งเกษียณ การศึกษา การทำธุรกิจ
สำหรับคนที่อายุ 30-45 ปี วันนี้คือช่วงเวลาทองของการเริ่มวางแผนชีวิตให้ตัวเองและครอบครัว
คุณจะเลือกออมแบบเดิม ๆ หรือจะเลือกวิธีที่ให้ทั้งผลตอบแทน คุ้มครอง และวินัยทางการเงิน?
ถ้าอยากมีเงินล้านไว้ใช้ตอนอายุ 60 อย่ารอให้ถึงอายุ 50 แล้วค่อยมานั่งเครียด… เริ่มวันนี้ ยังไม่สาย! ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรี
สถิติที่เกี่ยวข้อง
- จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2567 พบว่าประเทศไทยมีแนวโน้มสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเพิ่มจากร้อยละ 6.8 ในปี 2537 เป็นร้อยละ 20.0 ในปี 2567
- ผู้สูงอายุที่เกษียณแล้วแต่ยังไม่สามารถเก็บออมได้ตามแผนที่ตั้งใจมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 42–47
- ในปี 2566 มีจำนวนผู้สูงอายุที่ยังต้องทำงาน 5.11 ล้านคนหรือคิดเป็น 37.5% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมา 4 แสนคนจากปี 2565
