ลดหย่อนภาษี ปีนี้เอาให้สุด! วางแผนบริหารภาษีให้ครบทุกมิติ ปกป้องความเสี่ยง สร้างฐานการเงินมั่นคง และเพิ่มโอกาสการลงทุนในอนาคต
การวางแผนลดหย่อนภาษีเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการการเงินที่สำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่หากคุณสามารถจัดการให้ดี จะช่วยให้คุณไม่เพียงแค่ลดภาระภาษีได้ แต่ยังช่วยให้การเงินของคุณมั่นคงขึ้นในระยะยาวอีกด้วย นอกจากนี้ การวางแผนการเงินที่ดียังช่วยให้คุณสามารถป้องกันความเสี่ยงในชีวิต ออมเงินอย่างมีระเบียบ และลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคต โดยสามารถปรับแผนลดหย่อนภาษีตามสถานการณ์และเป้าหมายของคุณเองได้ในแต่ละปี
แนวทางที่เราแนะนำในบทความนี้เราอิงแนวคิดจากหลักปิรามิดทางการเงิน โดยเริ่มจากการ ปกป้องความเสี่ยง ด้วยการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่คุ้มครองทั้งตัวคุณและครอบครัว ต่อมาเราจะไปที่การ ออมเงินอย่างมั่นคง ผ่านการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและประกันบำนาญ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเกษียณในอนาคต เมื่อฐานการเงินมั่นคงแล้ว คุณก็สามารถ ลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง ด้วยการเลือกลงทุนใน RMF, SSF หรือ Thai ESG ที่ไม่เพียงแค่ช่วยลดหย่อนภาษี แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน
การลดหย่อนภาษีตามลำดับนี้จะช่วยให้คุณได้ผลประโยชน์สูงสุดในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษี การสร้างเงินออมระยะยาว และการลงทุนเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งในอนาคต ซึ่งเป็นการวางแผนที่ครบวงจรและช่วยให้คุณมีชีวิตการเงินที่มั่นคงและปลอดภัย
1. เริ่มด้วย ลดหย่อนภาษี พื้นฐานที่ทุกคนสามารถใช้ได้
สิทธิ์ลดหย่อนพื้นฐานที่จะช่วยลดภาระภาษีได้อย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท, ค่าใช้จ่ายตามมาตรา 40(1) 100,000 บาท, และ ประกันสังคม ที่ลดได้สูงสุด 9,000 บาท ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วลดได้สูงสุดถึง 169,000 บาท นอกจากนี้ยังมี มาตรา 40 ที่สามารถแตกต่างกันไปตามประเภทการทำงาน เช่น นักแสดง นักดนตรี หรือแม้แต่บุคคลที่มีรายได้จากอาชีพพิเศษ ซึ่งแต่ละมาตราจะมีสิทธิ์ลดหย่อนที่แตกต่างกัน ดังนั้นการตรวจสอบสิทธิ์ของตัวเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
2. ปกป้องความเสี่ยงด้วยประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
การวางแผนลดหย่อนภาษีไม่ใช่แค่การลดภาษีเท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยการมี ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ สามารถลดหย่อนได้สูงสุดถึง 100,000 บาท นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเงินในระยะยาว และยังเป็นการวางแผนสร้างมรดกให้คนข้างหลังหากเราไม่สามารถดูแลได้ในอนาคต
3. ดูแลคนที่คุณรักด้วยประกันสุขภาพพ่อแม่
สำหรับใครที่มีพ่อแม่ที่ต้องดูแล การมี ประกันสุขภาพสำหรับพ่อแม่ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการดูแลพ่อแม่ไม่ใช่แค่เรื่องของการลดหย่อนภาษี 15,000 บาทเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้เราต้องใช้งานเงินออมส่วนตัวในกรณีที่ท่านเจ็บป่วย หรือจำเป็นต้องรักษาพยาบาล เป็นการให้การดูแลที่ดีทั้งในเรื่องสุขภาพและการเงิน
4. ออมเงินระยะยาวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การออมระยะยาวใน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการลดหย่อนภาษี โดยสามารถลดหย่อนได้สูงสุดถึง 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับ RMF/SSF แต่ต้องเลือกกองทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งจะเป็นการออมที่ช่วยสร้างวินัยในการออมได้ดี อีกทั้งยังได้รับการสมทบจากบริษัท ที่ช่วยให้การออมเติบโตอย่างมั่นคง
5. วางแผนเกษียณด้วยประกันบำนาญ
ประกันบำนาญ เป็นการออมที่สำคัญในการเตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณ โดยสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 200,000 บาท นอกจากนี้ประกันบำนาญยังช่วยให้เรามีเงินรายเดือนหรือรายปีที่สามารถใช้ได้หลังจากเกษียณ ช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณมีความมั่นคง ไม่ต้องพึ่งพารายได้จากงานประจำอีกต่อไป
6. ลงทุนระยะยาวใน RMF หรือ SSF
RMF (Retirement Mutual Fund) และ SSF (Super Savings Fund) เป็นการลงทุนระยะยาวที่ช่วยเตรียมตัวสำหรับเกษียณ และยังสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้ โดยรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่เกิน 500,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มโอกาสการลงทุนในระยะยาว โดยมีการคัดเลือกกองทุนที่หลากหลายตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ช่วยให้เงินออมของเราเติบโตและพร้อมสำหรับอนาคต
7. เพิ่มโอกาสในการลงทุนที่ยั่งยืนกับ Thai ESG
สำหรับผู้ที่ต้องการการลงทุนที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม Thai ESG เป็นทางเลือกที่ดี เพราะการลงทุนใน ESG จะช่วยส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนในธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล นอกจากนี้ยังสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 250,000 บาท ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่นอกจากจะได้ประโยชน์ทางภาษีแล้ว ยังช่วยสร้างโลกที่ดีขึ้นอีกด้วย
สรุป: การวางแผนลดหย่อนภาษีแบบนี้จะช่วยให้คุณลดภาระภาษีในขณะเดียวกันก็สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับคุณในระยะยาว โดยเริ่มจากการปกป้องความเสี่ยง การออมอย่างมั่นคง และการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต